บุกโกดังมิจฉาชีพ มั่วส่งของเก็บเงินปลายทาง ตรวจยึดนมผง - แชมพู - ฟิลเลอร์ ผิดกฎหมาย - สินค้าปลอมกว่า 30,000 ชิ้น

มีรายงานว่า ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2  พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2  พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2  พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.เอกภณ คณะญาพงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.ไกรพล แสงดึก รอง ผกก.2 บก.สอท.2 

 

บุกโกดังมิจฉาชีพ มั่วส่งของ ตรวจยึดสินค้าผิดกฎหมาย - ปลอมกว่า 30,000 ชิ้น

พร้อมด้วย นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เภสัชกร วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค , นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการส่วนบังคับคดี สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

 


นำกำลังทลายเครือข่ายขายนมผงปลอม โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี 4 จุด ประกอบด้วย 

  1. บ้านเลขที่ 56/27 หมู่บ้านพฤษา40 หมู่ 3 ต.คลองสามอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 
  2. หอพักวิชาญอพาร์ตเม้นต์ เลขที่ 21/21 ห้องเช่าที่ 632  หมู่ 5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 
  3. แกรนด์โมเดิร์นคอนโด ห้องเลขที่ 59/16 อาคาร บี ชั้นที่ 1 หมู่ 5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
  4. จังหวัดสมุทรสาคร 1 จุด บ้านเลขที่ 69/6 ซอยชุมพล ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 

 


พร้อมจับกุมตัวนายธนเดช อยู่แจ้ง อายุ 48 ปี เจ้าของ จับกุมได้ที่ จ.สมุทรสาคร และ น.ส.รุ่งฤดี ปะวันโน อายุ 21 ปี ทำหน้าที่รับออเดอร์และการเงิน จับกุมตัวได้ในพื้นที่อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามมายจับ ส่วน MISS THANH HOAI NGUYEN อายุ 24 ปี สัญชาติเวียดนาม ทำหน้าประสานงานนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม ผู้ร่วมเครือข่ายอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

 


โดยจุดที่น่าสนใจที่บ้านเลขที่ 56/27 หมู่บ้านพฤษา 40 หมู่ 3 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม MR.DINH VINH LE อายุ 30 ปี และ MISS THAN DIEU HUONG อายุ 29 ปี สัญชาติเวียดนาม แสดงตนเป็นผู้ดูแลบ้านและนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น และตรวจค้นพบ ของกลาง ได้แก่ สินค้าผลิตภัณฑ์อาหารประเภทนมผง ยี่ห้อ Dreamy Sure , แชมพู , ฟิลเลอร์และผลิตภัณฑ์อื่นที่เข้าข่าย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย รวมเป็นจำนวนกว่า 30,000 ชิ้น ทางเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง

 

บุกโกดังมิจฉาชีพ มั่วส่งของ ตรวจยึดสินค้าผิดกฎหมาย - ปลอมกว่า 30,000 ชิ้น

ทั้งนี้ ดร.พวงเพ็ชร กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ เนื่องมาจากมีผู้มาร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ว่ามีการส่งสินค้าไปที่บ้านพัก โดยที่ผู้ร้องทุกข์ไม่ได้สั่งสินค้า หรือบางครั้งก็ได้สินค้าไม่ตรงปก ทำให้ต้องเสียเงินไปโดยใช่เหตุ 

 

 


จึงได้บูรณาการร่วมกันจากหลายฝ่าย สืบทราบจนนำมาสู่การเข้าค้นพื้นที่ในวันนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งผ่านแพลตฟอร์ม ซื้อของออนไลน์ชื่อดังด้วย จึงต้องเรียกมาตรวจสอบว่าผู้ขายได้มีการลงทะเบียนไว้กับทั้ง2แพลตฟอร์มไว้อย่างไรบ้าง  ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปที่มีการรับพัสดุก็ต้องตรวจสอบดูให้ดีว่าใช่สินค้าที่ตัวเองสั่งหรือไม่หรือราคาตรงกับรายการที่ตัวเองต้องเสียหรือไม่เพื่อ ป้องกัน ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มพวกนี้

 


ด้าน พล.ต.ต.นิพล กล่าวว่า ภายหลังการร้องเรียน และมีการรวบรวมข้อมูล พบว่า กลุ่มดังกล่าวมีการค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าควบคุม เช่นนมผง เมื่อตรวจสอบลึกลงไปก็พบว่าสินค้าตัวดังกล่าวมีการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงได้มีการทดลองสั่งซื้อ เมื่อได้สินค้าก็ส่งต่อให้กับ อย.เป็นผู้ตรวจสอบ ก็พบว่าสินค้าตัวดังกล่าวไม่ได้มีการจดแจ้งและไม่ได้มีการประทับตรา อย. จึงได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและสถานที่ตั้ง 

 


ก่อนจะเข้าตรวจค้น ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีการขายสินค้า ได้ประมาณ 4,000 กว่ารายการเป็นเงินประมาณ 9 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งสินค้า 4,000 กว่ารายการ มีประมาณ 200 รายการที่ถูกตีกลับ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลักษณะการส่งของโดยที่ผู้เสียหาย ที่ไม่ได้มีการสั่งซื้อจริง  และจากการสังเกตพบว่าสินค้าที่นำไปส่งนั้นมีต้นทุนอยู่ในราคาประมาณ 10 กว่าบาท แต่มีการ ลงทะเบียนเก็บปลายทาง เป็นเงินกว่า 200 บาท ถ้าผู้เสียหายหรือเหยื่อติดกับก็เท่ากับว่าเขาได้ กำไรจากสินค้าชิ้นนั้น 100 กว่าบาท 

 


โดยกลุ่มพวกนี้จะมีแนวคิดที่ว่าส่งสินค้าไป 1,000 ชิ้นถ้าเกิดมีผู้หลงเชื่อยอมจ่ายเงิน 100 ชิ้น ต่อให้สินค้าอีก 900 ชิ้นตีกลับมาเขาก็จะได้กำไรจาก 100 ชิ้นที่มีผู้เสียหาหลงเชื่อยอมจ่ายเงินอยู่ดี  ทุกวันนี้เราสามารถปรับผู้ต้องหาได้เป็นชาวเวียดนาม คาดว่าน่าจะเป็นลูกจ้างส่วนตัวการใหญ่นั้นจากที่เราศึกษาพบว่าเป็นคนไทย 1 รายและเป็นคนประเทศเพื่อนบ้านอีก 1 รายตอนนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวจับกลุ่มเพราะว่าเรามีข้อมูลในเรื่องการเดินทางอยู่พอสมควร

 


ทั้งนี้ทางแพลตฟอร์มซื้อขายของออนไลน์ชื่อดัง ได้เข้าพูดคุยกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องแนวทางในการ ขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องมีการหารือเรื่องของการโฆษณา สำหรับ สินค้าควบคุม ว่าจะมีแนวทางอย่างไร หากอยู่ในแพลตฟอร์มดังกล่าว ในส่วนของการดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ เป็นการโฆษณาสินค้าเกินจริง ซึ่งได้มีการเชิญ อย. เข้ามาตรวจสอบ ผ่านทาง อย. ในส่วนนี้ก็อาจจะผิดกฎหมาย ด้วยเช่นเดียวกัน
 

บุกโกดังมิจฉาชีพ มั่วส่งของ ตรวจยึดสินค้าผิดกฎหมาย - ปลอมกว่า 30,000 ชิ้น