- 11 ต.ค. 2568
5 เมนูที่ดูไม่หวาน แต่น้ำตาลพุ่งปรี๊ด "หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ โพสต์เตือน เชื่อ เป็นเมนูโปรดของหลายคน
"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
5 เมนูที่ดูไม่หวาน
แต่น้ำตาลพุ่งปรี๊ด !!!
หลายคนตั้งใจดูแลตัวเองมากเลยครับ ไม่กินของหวาน ไม่แตะน้ำอัดลม แต่พอตรวจสุขภาพทีไรน้ำตาลยังขึ้นทุกที ทั้งที่อาหารที่กินก็ดูไม่มีอะไรหวานเลยแต่พอถึงวันตรวจสุขภาพ น้ำตาลในเลือดยังสูงอยู่ดี จริง ๆ แล้วไม่ใช่เพราะเรากินหวานเกินไปหรอกครับ แต่เป็นเพราะบางเมนูดูไม่หวาน แต่ร่างกายย่อยเป็นน้ำตาลเร็วมาก วันนี้ผมมาแชร์ 5 เมนูที่แอบทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งได้แบบไม่รู้ตัวครับ พร้อมวิธีปรับเล็ก ๆ ที่ยังอร่อยได้เหมือนเดิมครับ
1. กาแฟเย็น–ชาเย็น–ชานม
เครื่องดื่มประจำวันของใครหลายคน ที่มักแอบหวานเกินรู้ตัว นมข้นหวานเพียง 2 ช้อนโต๊ะ มีน้ำตาลประมาณ 8 ช้อนชาแล้วครับ แม้จะสั่งหวานน้อยแต่ถ้าดื่มทุกวัน น้ำตาลสะสมได้แน่นอน ลองสั่งแบบหวาน 25% หรือใช้นมจืดแทน ลิ้นจะค่อย ๆ ปรับได้เอง และน้ำตาลในเลือดจะนิ่งขึ้นชัดเจนครับ
2. สมูทตี้ผลไม้รวม
หลายคนหันมาดื่มสมูทตี้ผลไม้แทนน้ำหวาน แต่ถ้าใส่กล้วย สับปะรด แอปเปิ้ล น้ำผึ้ง หรือโยเกิร์ตรสหวานรวมกัน น้ำตาลรวมต่อแก้วอาจสูงกว่าเครื่องดื่มชานมอีกครับ!
ลองดื่มสมูทตี้จากผลไม้ชนิดเดียว (เช่น เบอร์รี่หรืออะโวคาโด) แล้วเพิ่มผักใบเขียวหรือโปรตีนเชคเล็กน้อย จะได้สมดุลกว่าน้ำตาลต่ำลงเยอะครับ
3. แซนด์วิชไส้ทูน่ามายองเนส
เมนูยอดฮิตของคนรักสุขภาพตอนเช้า ดูเบาและดีต่อใจ แต่ขนมปังโฮลวีตที่ไม่ใช่แบบ “โฮลเกรนแท้” ยังมีแป้งขัดสีซ่อนอยู่ พอย่อยเร็ว ก็กลายเป็นน้ำตาลในเลือดแบบไม่รู้ตัว
ส่วนมายองเนสเองก็มักมีน้ำตาลและไขมันแฝงอยู่พอสมควร ลองปรับเลือกขนมปังโฮลเกรนแท้ 100% และเปลี่ยนมายองเนสเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติแทน
จะได้ทั้งรสกลมกล่อมและดีต่อระบบย่อยอาหารด้วยครับ
4. น้ำเต้าหู้ร้อน ๆ ยามเช้า
ฟังดูเฮลท์ตี้มาก แต่สูตรทั่วไปมีน้ำตาลเฉลี่ย 4–6 ช้อนชา บางคนยังเพิ่มเครื่อง เช่น ลูกเดือย ถั่วแดง วุ้น ซึ่งพอรวมกันแล้วน้ำตาลสูงกว่าที่คิด
ลองปรับมาสั่งสูตร “ไม่ใส่น้ำตาล” แล้วค่อยเติมเองนิดหน่อยตามชอบหรือเลือกแบบใส่เฉพาะถั่วเหลืองล้วน จะได้ทั้งโปรตีนและไขมันดีครับ
5. สลัดผักกับน้ำสลัด
ฟังดูดีสุด ๆ แต่ตัวน้ำสลัดนี่แหละครับที่เป็นน้ำตาลแฝงมาเลย น้ำสลัดครีมงาหรือน้ำสลัดซีซาร์ 2 ช้อนโต๊ะ มีน้ำตาลและไขมันซ่อนรวมกันกว่า 150 กิโลแคลอรี
กินไปเรื่อย ๆ ก็กลายเป็นพลังงานส่วนเกินที่สะสมโดยไม่รู้ตัว แค่ลองปลี่ยนมาใช้น้ำสลัดใสแบบบัลซามิก หรือน้ำมะนาวผสมมะกอก
จะช่วยให้รสสดชื่นขึ้นโดยไม่เพิ่มน้ำตาลเลยครับ
ของกินเหล่านี้ไม่ได้ห้ามครับ แต่แค่อยากให้รู้ก่อนกินหรืออย่ากินบ่อยเพราะบางอย่างร่างกายเราย่อยเร็วกว่าที่คิด ถ้าแค่ลดหวานลงหน่อย ปรับสูตรนิดเดียว
เติมผักหรือโปรตีนเข้าไปเพิ่มอีกนิด ร่างกายจะค่อย ๆ คุมน้ำตาลได้ดีขึ้นจริง สุขภาพดีไม่ต้องถึงขั้นอดของอร่อย แค่เลือกสิ่งที่กินให้เหมาะกับร่างกายเรา ใครมีคำถามคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะครับ






