"หมอเจด" เปิดชัดๆ 5 ผักไทย ราคาหลักสิบในตลาด ช่วยคุมน้ำตาล ลดพุง

อยากให้กินทุกวัน "หมอเจด" เปิด 5 ผักไทยพื้นบ้าน ราคาหลักสิบในตลาด ช่วยคุมน้ำตาล ลดพุงจากอินซูลินแบบธรรมชาติ

วันที่ 31 ต.ค. 2568 หมอเจด นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ให้ความรู้ด้านสุขภาพ เผยว่า 5 ผักพื้นบ้านราคาหลักสิบ แต่หมออยากให้กินทุกวัน หลายคนพยายามคุมอาหาร ลดแป้ง ลดน้ำตาล แต่ก็ยังหิวบ่อย หรือกินนิดเดียวก็อ้วนง่าย เพราะขาดยังขาดการกินไฟเบอร์ดี + ผักที่ช่วยคุมอินซูลินโดยตรง ซึ่งจริงๆแล้วอยากบอกเลยว่าของบางอย่างไม่จำเป็นต้องแพง ไม่ต้องหาผักนอกหรือซูเปอร์ฟู้ดอะไรที่หาซื้อยาก ผักบ้าน ๆ ราคาหลักสิบในตลาดนี่แหละ คือของอยากให้กินทุกวันที่สุด 

 

"หมอเจด" เปิดชัดๆ 5 ผักไทย ราคาหลักสิบในตลาด ช่วยคุมน้ำตาล ลดพุง

วันนี้ผมเลยจะมาแชร์ผักไทยที่ช่วยคุมน้ำตาล + ลดความอยาก + ลดพุงจากอินซูลินแบบธรรมชาติ


1. บวบ
ผักเนื้อใส ย่อยง่ายมาก เหมาะกับคนที่หิวเร็ว หิวง่ายเหมือนกระเพาะโล่งทั้งวัน ใยอาหารชนิดละลายน้ำในบวบ ช่วยเคลือบทางเดินอาหาร ทำให้การดูดซึมน้ำตาลช้าลงแบบธรรมชาติ กินแล้วจะรู้สึกอิ่มนานขึ้นโดยไม่อึดอัด เหมาะสำหรับคนเริ่มทำ IF หรือคนไตเสื่อมเริ่มต้นด้วยครับ


2. ตำลึง 
ไม่ใช่แค่ผักตามรั้ว แต่ตำลึงสามารถช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้และลดภาวะดื้ออินซูลินได้ เหมาะกับคนที่กินไม่เยอะแต่พุงออก หรือเป็นเบาหวานระยะเริ่มต้น เอาไปลวก ต้มจิ้มน้ำพริก หรือใส่แกงจืดก็ได้ครับ


3. ฟักทอง 
คนชอบเข้าใจผิดว่าฟักทองหวาน = น้ำตาลขึ้น จริงๆ GI ต่ำมาก กินแล้วอิ่มนาน + น้ำตาลขึ้นช้า แนะนำกินแบบนึ่ง ไม่ต้องชุบแป้งทอด ไม่ต้องใส่น้ำตาลเพิ่ม คนที่ควบคุมน้ำหนักหรือเบาหวาน แทนข้าวเย็นได้เลยครับ

4. ผักบุ้ง 
เวลาน้ำตาลขึ้นพรวดช่วงหลังอาหาร ผักบุ้งช่วยได้จริง เพราะมีสารที่ช่วยให้ตับไวต่ออินซูลินมากขึ้น ทำให้น้ำตาลกลับสู่ระดับปกติเร็วขึ้น แนะนำผัดน้ำมันน้อย / ลวกกับน้ำน้อย ไม่ใช่ผัดไฟแรงน้ำมันท่วมแบบร้านข้าวแกง


5. ยอดฟักแม้ว 
เส้นใยสูงกว่าผักกาดหรือผักบุ้งหลายเท่า ทำให้อิ่มเร็วมากและชะลอการดูดซึมน้ำตาล เหมาะกับคนที่หิวตลอด หิวตอนดึก หรือต้องการคุมอินซูลินแบบจริงจัง จะผัดน้ำมันหอยแบบบาง ๆ หรือลวกกินกับน้ำพริกก็ได้


บางครั้งแค่ลองเพิ่มผักลงในมื้ออาหารทุกวัน ก็ช่วยเปลี่ยนระบบเผาผลาญ ฮอร์โมน และน้ำตาลในเลือดได้แล้ว ลองเริ่มจากอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนก็พอครับ ไม่ต้องทำครบหมดในวันเดียว และควรทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ แค่เริ่มดูแลตัวเองวันนี้ ดีกว่ารอให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนนะครับ

 

ขอบคุณ FB : หมอเจด