หมอเจดเผยเอง ที่แท้ 5อย่างนี้ ทำ "ไตรกลีเซอร์ไรด์" พุุ่ง ไม่รู้ตัว

"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

หลายคนตรวจเลือดแล้วตกใจ ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง ทั้งที่ไม่ได้กินมัน ไม่ได้กินของทอดเยอะ แต่ความจริงแล้ว ไตรกลีเซอร์ไรด์ไม่ได้มาจากไขมันอย่างเดียว มันสะสมจากพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ทำซ้ำทุกวัน ถ้าปล่อยไว้ เสี่ยงหลอดเลือดตีบ หัวใจวาย และตับไขมันแบบไม่รู้ตัวครับ

1) กินหวานเป็นประจำ น้ำตาลคือศัตรูตัวจริง
น้ำตาลที่กินเข้าไป ไม่ว่าจะจากน้ำหวาน ขนม เบเกอรี่ หรือชานม ร่างกายจะเปลี่ยนส่วนเกินเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์สะสมในเลือดและตับ ยิ่งกินหวานบ่อย ไตรกลีเซอร์ไรด์ยิ่งพุ่ง แม้จะไม่อ้วนก็ตาม คนที่คิดว่า “กินไม่มัน” แต่หวานจัด มักพลาดจุดนี้มากที่สุดครับ

2) ดื่มแอลกอฮอล์ แม้ไม่เมาแต่ไขมันพุ่ง
แอลกอฮอล์กระตุ้นตับให้สร้างไตรกลีเซอร์ไรด์เพิ่มขึ้นโดยตรง ดื่มบ่อย ดื่มทุกสัปดาห์ หรือดื่มทีละไม่มากแต่ต่อเนื่อง ล้วนทำให้ไขมันในเลือดสูงขึ้นแบบเงียบ ๆ หลายคนตรวจเลือดเจอค่าสูง ทั้งที่กินอาหารปกติ แต่ไม่เคยงดเหล้าเลยครับ

3) กินแป้งขัดขาวเป็นหลัก ข้าว-เส้น-ขนมปัง
ข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปังขาว และแป้งขัดขาว ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งเร็ว ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์สะสม ยิ่งกินเป็นมื้อหลักทุกวัน ไขมันในเลือดยิ่งสูงโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยได้ขยับร่างกายครับ

4) ไม่ออกกำลังกาย ไขมันไม่ถูกเผาผลาญ
ไตรกลีเซอร์ไรด์จะลดลงได้ดีเมื่อร่างกายมีการเคลื่อนไหว แต่ถ้านั่งทั้งวัน ไม่ออกกำลังกาย ไขมันจะถูกสะสมแทนที่จะถูกใช้ หลายคนคุมอาหารแล้ว แต่ไม่ขยับเลย ค่าก็ยังไม่ลง เพราะร่างกายไม่มีโอกาสเผาผลาญไขมันส่วนเกินครับ

5) นอนน้อย เครียดสะสม ฮอร์โมนพาไขมันพุ่ง
การนอนดึก พักผ่อนไม่พอ และความเครียดเรื้อรัง ทำให้ฮอร์โมนผิดสมดุล ร่างกายดื้ออินซูลิน และสร้างไตรกลีเซอร์ไรด์เพิ่มขึ้น คนที่งานหนัก เครียด นอนน้อย มักมีไขมันในเลือดสูง แม้กินไม่เยอะก็ตามครับ

ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ แค่ทำตามนี้

• เริ่มจากลดหวานและแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง
• เปลี่ยนแป้งขัดขาวเป็นข้าวกล้อง ธัญพืช
• เพิ่มผักและโปรตีนดี
• ขยับร่างกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที
• และนอนให้พอ 6–8 ชั่วโมง

เมื่อทำตามนี้อย่างต่อเนื่อง ไตรกลีเซอร์ไรด์จะลดลงได้จริง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเสมอไปครับ
ไตรกลีเซอร์ไรด์สูงไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ได้เกิดจากไขมันอย่างเดียว แต่มาจากน้ำตาล แป้ง แอลกอฮอล์ ความเครียด และการไม่ขยับตัว หากรู้ทันต้นเหตุและปรับพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงหลอดเลือดตีบ หัวใจวาย และโรคแทรกซ้อนในอนาคตได้จริงครับ