ทั่วโลกรุมประณาม นักวิ่งมาราธอนโอลิมปิก นิสัยเเย่ จงใจปาดขวดน้ำทั้งเเถบ

  การเเข่งขันวิ่งมาราธอน ปิดท้ายมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์8 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า  เอลีอุด คิปโชเก ยอดปอดเหล็กชาวเคนย่า ยังคงความไร้เทียมทาน สมราคาเจ้าของสถิติโลก จารึกประวัติศาสตร์เป็นนักวิ่งคนที่ 3 ที่สามารถป้องกันแชมป์วิ่งมาราธอน โอลิมปิก เกมส์ ด้วยการวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนเเรก คว้าเหรียญทอง ทำเวลา 2 ชั่วโมง 8 นาที 38 วินาที (ชมคลิป)


 

  อย่างไรก็ตาม คิปโชเก้ ไม่สามารถทำลายสถิติโลกของตัวเองที่เคยทำไว้ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ปี 2018 เวลา 2 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที รวมถึงสถิติโอลิมปิก ที่ทาง ซามูเอล วันจิรู ปอดเหล็กจากเคนยาเพื่อนร่วมชาติ ทำไว้ที่ ปักกิ่งเกมส์ 2008  ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 6 นาที 32 วินาที 

ซึ่งในการเเข่งขันวิ่งมาราธอน ส่งท้ายโตเกียว เกมส์ 2020 ก็ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมากมาย หลังจากมีช็อตที่นักวิ่งรายหนึ่ง เเสดงพฤติกรรมไม่เหมาสม วิ่งเอามือไปปัด กวาดขวดน้ำสำหรับนักวิ่งล้มทั้งเเถบ สายปาดขวดน้ำ โดนประณามจากคนทั่วโลก โดยเพจ Avarin Running and Triathlon ได้เผยไว้ว่า

ยังไม่รู้จะโดนแบนไหมด้วย เพราะ

1 ทำลายจังหวะคนตามหลัง

2 กะทำให้นักวิ่งตามหลังไม่ได้น้ำ

สุดท้ายยังดีมีน้ำถัดไป ให้นักวิ่งตามหลังกินทัน ไม่ต้องชะลอความเร็ว ส่วนสายปาดขวดเข้าที่ 17 ไป พร้อมโดนประณาม

ใน มาราธอน โอลิมปิค

ทำไมน้ำจึงสำคัญมาก

1 ถ้าร่างกายสูญเสียน้ำ ของเหลวส่วนเลือดจะลดน้อยลง ไม่มีตัวพา oxygen ไปที่กล้ามเนื้อเพียงพอ กล้ามเนื้อทำงานลดลง ล้า เป็นตะคริว หมดแรง

2 น้ำช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย จากทั้งการดื่ม และการราดตัวโดยตรง ยิ่งอากาศร้อน ยิ่งมีผลมาก ไม่ได้น้ำ ร่างกายต้องใช้พลังงานในการวิ่งมากขึ้น Running economy แย่ลงตามมา

น้ำจึงมีความสัมพันธ์โดยตรง ต่อเวลา และการแพ้ชนะของนักกีฬา

ชมคลิป

ขอบคุณ
Avarin Running and Triathlon