- 12 ม.ค. 2560
รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th
“คนเรามันไม่ได้วิเศษวิโส เพราะการกินผักกินเนื้อน่ะ“ เมื่อปู่มั่น และปู่ผาง พูดถึงความบริสุทธิ์สิ้นกิเลสจากการกินผัก
ครั้งหนึ่ง ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๐ หลวงปู่ฝางได้เที่ยวธุดงค์ขณะนั่งภาวนาอยู่นั้น ได้ปรากฏในนิมิตว่า มีพวกวิญญาณ ของสัตว์ชนิดต่างๆ ต่างฟ้องร้องเรียนและลาต่อท่านว่า “พวกเราได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ทุกข์ทรมานมาก เพราะต้องถูกพวกมนุษย์หูกิ้นๆ(หูสั้นๆ) ตามล่าฆ่ากินเป็นอาหาร ขอให้หลวงปู่ได้โปรดแผ่เมตตา และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้พวกเราได้พ้นจากทุกข์ด้วย ที่สำคัญ ขอให้หลวงปู่ ได้ช่วยสั่งสอนพวกมนุษย์ทั้งหลาย ให้มีเมตตาอย่าได้พากันเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายด้วยเถิด”
เมื่อท่านได้ฟังดังนั้น ก็เกิดความสังเวชสลดใจสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง สะเทือนเข้าไปจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ ฝังลึกมาก รู้สึกเมตตาสงสารพวกวิญญาณ ของสัตว์เหล่านั้นอย่างจับใจ มันเป็นเช่นนี้นี่เอง โลกในนี้ เป็นมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว มนุษย์ย่อมเอาเปรียบสัตว์ รังแกสัตว์ที่ไม่มีทางสู้ เมื่อสั่งสมบาปจิตใจหยาบช้ามากขึ้นไปกว่านั้นอีก เมื่อท่านพิจารณาเห็นดังนั้น จึงได้ตั้งใจว่า “ตั้งแต่บัดนี้ต่อไปจะฉันแต่อาหารเจ งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด” และได้ตั้งใจปฏิบัติภาวนาอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตา ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ ทั่วแดนโลกธาตุวันต่อมาท่านได้เดินธุดงค์ต่อไป ขณะเดินอยู่กลางป่านั้น ก็ได้เห็นเหตุการณ์แปลกประหลาด อันน่าสลดหดหู่ จะเป็นน้ำมือของมนุษย์คนใดก็สุดที่จะเดาได้เป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจที่ได้ไว้เมื่อคืนนี้ แต่นี้ต่อไปจะฉันเฉพาะอาหารเจ งดเว้นเนื้อสัตว์ และได้ปฏิบัติตามความตั้งใจตั้งแต่นั้นเป็นตันมา จนถึงวันท่านมรณภาพ อีกประการหนึ่ง การฉันเจนี้ หลวงปู่ผาง ท่านอนุโลมตามธาตุขันธ์ขององค์ท่าน ดังที่ท่านเคยบอกลูกศิษย์ลูกหา “ธาตุขันธ์ของผมมันไม่ให้แล้วนะ หมู่เพื่อน ช่วงหลังมานี้ ฉันเนื้ออะไรแล้ว มันไม่ย่อย จะฉันอะไรก็พากันฉัน ฉันตามได้ตามมีตามเกิดนั่นแหละ” ส่วนใครจะฉันเหมือนองค์ท่านหรือไม่นั้น ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วแต่อัธยาศัยของใครของมัน
แม้หลวงปู่มั่น ท่านก็เคยสอนลูกศิษย์ (พระอาจารย์อุ่น กลฺยาณธมฺโม และคณะ) สมัยพักอยู่ป่าเปอะ จังหวัดเชียงใหม่ว่า
“คนเรามันไม่ได้วิเศษวิโส เพราะการกินผักกินเนื้อนะ แต่มันวิเศษด้วยการกินเพราะการพินิจพิจารณาโดยแยบคาย ในเรื่องดีเรื่องชั่วในจิตเราดอก พระธรรมคำสอนแง่หนักเบาต่างหาก ที่เรานำมาพินิจพิจารณาแล้วนำมาสอนตน จะทำให้เราดีขึ้นได้ เรื่องกินอยู่หลับนอนอะไรๆ พระพุทธเจ้าก็ทรงบัญญัติไว้หมดแล้ว ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับการกินเจไม่กินเจ กินเนื้อไม่กินผัก กินแต่ผักไม่กินเนื้อ อันไหนกินได้ฉันได้ท่านก็บัญญัติไว้หมดแล้ว ถ้าท่านคิดว่าการกินแต่ผักทำให้ท่านเลิศเลอเป็นผู้วิเศษขึ้นมาได้ อันนี้ผมสุดปัญญาที่จะสอนท่าน ถ้าการกินแต่ผักอย่างท่านว่า เป็นผู้บริสุทธิ์สิ้นกิเลสจบพรหมจรรย์ได้ มนุษย์ไม่ได้สิ้นกิเลสหรอก วัวควายเป็นต้นนั่นแหละ มันจะสิ้นกิเลสก่อน เพราะมันไม่ได้กินเนื้อ มันกินแต่หญ้า เต็มปากเต็มพุง มันกินแต่ผักแต่หญ้า ทำไมลูกมันถึงเต็มท้องไร่ท้องนา ถ้าการกินแบบท่านว่าเป็นของเลิศ วัวควายมันเลิศก่อนแล้ว เพราะมันเกิดมาก็กินแล้ว โดยไม่ต้องมีใครคอยสอน ถึงท่านกินยังไง มันก็ไม่เท่าวัวเท่าควายกินหรอก เพราะวัวควายมันปฏิเสธเนื้อโดยประการทั้งปวง กินแต่ผักแต่หญ้า” ถ้าจะกินเจ ฉันเจ กินผักไม่กินเนื้อ ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่การไปตำหนิคนโน้นคนนี้ ว่ากินเนื้อเป็นเปรตเป็นผี มันไม่สมควร ให้รีบแก้ ราคะ โทสะ โมหะที่เผาหัวอยู่นั่นล่ะ มันเป็นสิ่งที่ท่านต้องแก้เสียโดยเร็วพลัน ไม่ใช่วันๆ เที่ยวแต่ชวนหาคนมากินผัก ไอ้ผักนั้นผมก็กิน คนเรามันประเสริฐได้ด้วยความประพฤติ มิใช่เพราะการกิน ส่วนเรื่องการกิน เป็นเรื่องรองๆ อย่าเอามาเป็นเรื่องเอก”
ที่มา : https://www.facebook.com/เกร็ดธรรมะ-ประวัติ-พระกรรมฐาน• หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต •
ชีวประวัติ ปฏิปทา และ คติธรรม หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต
ข่าวโดย : กิตติ ทีนิวส์ / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์






