เฮี้ยนขนลุกซู่!! ที่มาของ "เรือมะเขือยำ" เรือยาวโบราณอายุกว่า100ปี เรือเกียรติยศสำคัญแห่งประเพณี "แห่พระแข่งเรือ" ของชาวชุมพร

ติดตามต่อที่ http://www.tnews.co.th/

        เฮี้ยนขนลุกซู่!! ที่มาของ "เรือมะเขือยำ" เรือยาวโบราณอายุกว่า100ปี เรือเกียรติยศสำคัญแห่งประเพณี "แห่พระแข่งเรือ" ของชาวชุมพร

      ในช่วงหลังเทศกาลออกพรรษา ช่วงแรม ๑  ค่ำ  เดือน ๑๑  ชาวอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร จะตื่นเต้นกับเทศกาลงานประจำปี ซึ่งเรียกว่า " ประเพณีงานแห่พระแข่งเรือ ขึ้นโขนชิงธง " การแข่งเรือของอำเภอหลังสวนเริ่มมีครั้งแรกในสมัยพระยาจรูญราชโภคากร เป็นเจ้าเมืองหลังสวน เมื่อประมาณ ๑๐๐ ปีเศษ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) เป็นการลากพระชิงสายกันในแม่น้ำ โดยใช้เรือพายเป็นเรือดึงลากแย่งกัน วัด หรือหมู่บ้านใดมีเรือมากฝีพายดี ก็แย่งพระไปได้ อัญเชิญพระไปประดิษฐานไว้ในวัดที่ตนต้องการ มีงานสมโภชอย่างสนุกสนานในตอนกลางคืน รุ่งเช้าถวายสลากภัต ต่อมาสมัยหลวงปราณีประชาชน อำมาตย์เอก ได้ดัดแปลงให้มีสัญญาณในการปล่อยเรือโดยใช้เชือกผูกหางเรือคู่ที่จะแข่ง ให้เรือถูกพายไปจนตึงแล้วใช้มีดสับเชือกที่ผูกไว้ให้ขาด ลักษณะของเรือที่ใช้แข่งในปัจจุบันขุดจากไม้ซุง (ตะเคียน) ทั้งต้น ยาวประมาณ ๑๘-๑๙ เมตร มีธงประจำเรือติดอยู่ เรือแข่งจะแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ฝีพาย ๓๐ คน และฝีพาย ๓๒ คน ฝีพายจะนั่งกันเป็นคู่ ยกเว้นนายหัวกับนายท้าย เรือแต่ละลำจะมีฆ้องหรือนกหวีดเพื่อตีหรือเป่าให้จังหวะฝีพายได้พายอย่างพร้อมเพรียงกัน รางวัลสำหรับการแข่งขันในสมัยก่อน เรือที่ชนะจะได้รับผ้าแถบหัวเรือ ส่วนฝีพายจะได้รับผ้าขาวม้าคนละผืน 

เฮี้ยนขนลุกซู่!! ที่มาของ "เรือมะเขือยำ" เรือยาวโบราณอายุกว่า100ปี เรือเกียรติยศสำคัญแห่งประเพณี "แห่พระแข่งเรือ" ของชาวชุมพร

เมื่อพูดถึงงานประเพณีแห่พระแข่งเรือของชาวอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร แล้ว เราจะต้องพูดถึงเรือยาวลำหนึ่งซึ่งมีประวัติความเป็นมาสำคัญมากของชาวชุมพร ตามตำนานเล่าว่า เรือมะเขือยำ เป็นเรือโบราณ สังกัดวัด ดอนชัย (หรือวัดดอนยาง) มีอายุกว่า 100 ปี มีฝีพาย 28-32 ฝีพาย ประวัติของเรือลำนี้ค่อนข้างที่จะพิสดาร กล่าวคือ

ในฤดูน้ำหลาก ชาวบ้านได้พบซุงไม้ตะเคียนทอง ลอยตามลำน้ำมา เห็นว่าไม้ต้นนี้มีลักษณะสวยงาม ใช้ทำเรือยาวได้ จึงช่วยกันลากจูงมาที่ท่าน้ำวัดดอนชัย (วัดดอนยาง) นำมามอบให้หลวงพ่อกระจ่างและหลวงพ่อเพชร แต่เป็นที่น่าประหลาดว่า ไม่สามารถนำไม้นี้ขึ้นจากลำน้ำได้ ถึงแม้ว่าจะใช้ช้างกำลังดีชักลากถึง 3 เชือก ก็ตาม

ตกกลางคืน นางไม้ก็มานิมิตหลวงพ่อกระจ่างว่า ถ้าต้องการไม้ต้นนี้มาขุดเรือยาว ก็ให้ตั้งศาลบวงสรวง และให้นำ "ยำมะเขือ" มาเป็นเครื่องเซ่นไหว้

รุ่งเช้าหลวงพ่อกระจ่างและชาวบ้านก็จัดการตามที่นางไม้มาเข้าฝัน เป็นที่อัศจรรย์ว่า สามารถนำไม้ขึ้นจากลำน้ำได้อย่างง่ายดาย และนำมาขุดเป็นเรือยาวได้สวยงามมาก และตั้งชื่อว่า "มะเขือยำ"

เรือลำนี้มีความสวยงาม มีความสง่างามแปลกตาไปกว่าเรือลำอื่นๆ คือ โขนหัว และโขนท้าย งอนขึ้นสวยงาม ลวดลายที่ตัวเรือได้อนุรักษ์ไว้เหมือนของเดิมทุกประการ รูปประจำเรือคือ "รูปม้าที่กำลังวิ่ง"

ทุกปี เรือมะเขือยำ เป็นเรือโบราณ ลำหนึ่งและเป็นลำเดียวใน อ.หลังสวน ที่ยังเหลืออยู่ในเวลานี้ และจะทำหน้าที่นำขบวนเรือในพิธีเปิดการแข่งขันในงานประเพณีแห่พระแข่งเรือ ขึ้นโขนชิงธง ทุกปี มิเคยขาด

เฮี้ยนขนลุกซู่!! ที่มาของ "เรือมะเขือยำ" เรือยาวโบราณอายุกว่า100ปี เรือเกียรติยศสำคัญแห่งประเพณี "แห่พระแข่งเรือ" ของชาวชุมพร

นอกจากนี้เรือมะเขือยำ ยังมีประวัติที่น่าสนใจอีกอย่างนึงก็คือ "เรือมะเขือยำ"  ยังปรากฏในจดหมายเหตุประพาสต้นสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๒  ระบุถึงเรือมะเขือยำ สังกัดวัดดอนชัย ซึ่งเป็นเรือยาวใช้ในการแข่งขัน  เป็นเรือลำหนึ่งในขบวนเรือรับเสด็จที่ตำบลบางขันเงิน อำเภอหลังสวน เมื่อวันที่  ๙  สิงหาคม    พ.ศ.๒๔๓๒ (ร.ศ.๑๐๘)เรือนี้ได้นำเสด็จเรือกลไฟพระที่นั่งทอนิครอฟต์จากปากอ่าวไทยไปตามลำน้ำหลังสวน และเสด็จประทับพลับพลาตำบลบางขันเงิน 
จึงถือได้ว่า  เรือมะเขือยำ เป็นเรือที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์เมืองหลังสวนมาก ถือเป็นเรือเกีรติยศแห่งลุ่มแม่น้ำหลังสวน 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.gotoknow.org