- 26 มิ.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เนื่องในวันนี้ ( ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๐) เป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) เป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงเจริญพระชนมายุ ๙๐ พรรษา โดยทรงเริ่มดำรงตำแหน่งในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ทั้งนี้หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า ตำแหน่งหรือยศ "สมเด็จพระสังฆราช" ของไทยนั้นมีมาตั้งแต่เมื่อใด และยศนั้น มีความแตกต่างอย่างไร จะเห็นได้ว่า สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ก่อนๆ ตั้งแต่ สมัยก่อนจนมาถึงปัจจุบันนี้ ยศของสมเด็จพระสังฆราชนั้นมีความแตกต่างกันออกไป ด้วยฐานันดรศักดิ์ที่แตกต่างกัน
ความแตกต่างของ “ยศ”พระสังฆราช แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
๑.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า
๒.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
๓.สมเด็จพระสังฆราช
เหตุที่ต้องมีการแบ่งอิสริยยศของพระสังฆราชออกเป็น3ชั้นนั้น สืบเนื่องจากผู้ที่มาดำรงตำแหน่งพระสังฆราชมีฐานันดรศักดิ์ที่แตกต่างกันออกไป
ในอดีตนั้นกรุงรัตนโกสินทร์มีพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ ราชนิกูล และสามัญชน ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสังฆราช จึงทำให้สกุลยศที่ติดตัวมาส่งผลถึงการออกพระนามของพระสังฆราชแต่ละพระองค์ ดังจะอธิบายต่อไปนี้
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า คือ อิสริยยศของพระสังฆราชที่มีฐานันดรศักดิ์เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบวรราชเจ้า หรือมีฐานันดรศักดิ์ในอดีตเป็นพระองค์เจ้า เช่น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า, พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า เป็นต้น และเมื่อได้เป็นพระสังฆราชแล้วมักจะได้รับ(พระราชทาน) ถวายการทรงกรม ที่ กรมพระ หรือ กรมพระยา นับตั้งแต่อดีตกรุงรัตนโกสินทร์มี "สมเด็จพระมหาสมณเจ้ามาแล้ว3พระองค์" คือ
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๑ (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๗ )
- สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ พระโอรสพระองค์ที่ ๑๘ ในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๘ )
- พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๔ (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๐)
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า คือ อิสริยยศของพระสังฆราชที่มีฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้านายในพระราชวงศ์ชั้น หม่อมเจ้า และ ราชนิกูลชั้นหม่อมราชวงศ์หรือหม่อมหลวงที่ได้รับการสถาปนาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็นกรณีพิเศษ และเมื่อได้เป็นพระสังฆราชแล้วมักจะได้รับ (พระราชทาน) ถวายการทรงกรม ที่ กรมหลวง นับตั้งแต่อดีตกรุงรัตนโกสินทร์มี "สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ๒ พระองค์" คือ
- หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท พระโอรสพระองค์ใหญ่ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชมพูนุท กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๑)
- หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์ โอรสในหม่อมเจ้าถนอม นพวงศ์ (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๓)
สมเด็จพระสังฆราช คือ พระยศของพระสังฆราชที่มีฐานันดรศักดิ์เป็นสามัญชนมีพระพรรษาสูงสุดขึ้นเป็นพระประมุขฝ่ายสงฆ์ นับตั้งแต่อดีตกรุงรัตนโกสินทร์มี "สมเด็จพระสังฆราช ๑๕ พระองค์" คือ
- ศรี (สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรก แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดระฆังโฆสิตาราม
- ศุข (สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
- มี (สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ ราชบูรณะ (วัดเลียบ)
- สุก ญาณสังวร (สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
- ด่อน (สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
- นาค (สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดราชบุรณราชวรวิหาร
- สา ปุสฺสเทโว (สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
- แพ ติสฺสเทโว (สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
- ปลด กิตฺติโสภโณ (สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
- อยู่ ญาโณทโย ( สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
- จวน อุฏฺฐายี (สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
- ปุ่น ปุณฺณสิริ ( สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
- วาสน์ วาสโน ( สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
- เจริญ สุวฑฺฒโน (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
- อัมพร อมฺพโร ( สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
จะเห็นได้ ว่า ตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกนั้น เป็นตำแหน่งสมณศักดิ์สูงสุดฝ่ายพุทธจักรของคณะสงฆ์ไทย ทรงเป็นประธานการปกครองคณะสงฆ์ ตำแหน่งนี้น่าจะมีที่มาจากคณะสงฆ์ไทย นำแบบอย่างมาจากลัทธิลังกาวงศ์ ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ได้ทรงอัญเชิญพระเถระผู้ใหญ่ของลังกา ที่เชี่ยวชาญในพระไตรปิฎก เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาฝ่าย เถรวาทในประเทศไทย แบบแผนการปกครองคณะสงฆ์ของไทย เริ่มจัดวางหลักตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีการพัฒนาเพิ่มเติมใน สมัยกรุงศรีอยุธยาและต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อยมาตามลำดับ จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ การปกครองคณะสงฆ์ก็ยังจัดโดยมีตำแหน่งเปรียบเทียบดังนี้
สกลสังฆปรินายก ได้แก่สมเด็จพระสังฆราช
มหาสังฆนายก ได้แก่เจ้าคณะใหญ่
สังฆนายก ได้แก่เจ้าคณะรอง
มหาสังฆปาโมกข์ ได้แก่เจ้าคณะมณฑล
สังฆปาโมกข์ ได้แก่เจ้าคณะจังหวัดที่เป็นพระราชาคณะ
สังฆวาห ได้แก่เจ้าคณะจังหวัดที่เป็นพระครู
ที่มาจาก : คลังประวัติศาสตร์
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Mthai






