คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง130ราย เสี่ยงสูงกว่า300 สั่งปิดยาว

"บึงกาฬ"สั่งปิดไม่มีกำหนด คลัสเตอร์สถานบันเทิง คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง โควิดลามไปหลายอำเภอ ล่าสุดยอดติดเชื้อพุ่ง 130 ราย ผู้เสี่ยงสูงอีก 332 ราย

อัพเดตสถานการณ์โควิดบึงกาฬ ล่าสุดคลัสเตอร์สถานบันเทิง "ตลาดคับคั่ง"ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง 130 ราย  ทำให้ทางจังหวัดสั่งปิดชั่วคราวสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมขยายระยะเวลาการปิดออกไปอย่างไม่มีกำหนด

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา นายแพทย์ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ แถลงข่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ของจ.บึงกาฬว่า ปัจจุบันจังหวัดบึงกาฬยังคงมีแนวโน้มผู้ป่วยรายวันที่สูงขึ้น และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้คลัสเตอร์สำคัญที่อยู่ระหว่างการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด คือ คลัสเตอร์ร้านอาหารตลาดคับคั่ง ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีการลักษณะการให้บริการคล้ายสถานบันเทิง ณ ปัจจุบันคลัสเตอร์นี้ พบผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 130 ราย และมีผู้เสี่ยงสูงอีก 332 รายที่อยู่ระหว่างการกักตัว 

คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง130ราย เสี่ยงสูงกว่า300 สั่งปิดยาว

นอกจากนี้ การระบาดของคลัสเตอร์นี้ได้ทำให้มีผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีร้านอาหาร/สถานบันเทิงที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีลูกค้าผู้ใช้บริการ พนักงานเสิร์ฟ และนักร้อง เดินทางไปกันหลายแห่ง โดยร้านอาหารที่เกี่ยวข้องได้แก่ ร้านซิกเนเจอร์, ฉลองบาร์, เซฟโซน, และร้านโรงเล่า รวมถึงสถานประกอบการที่อยู่นอกอำเภอ เช่น ร้านตะวันแดง ของอำเภอพรเจริญ ซึ่งร้านที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนี้ ทางฝ่ายปกครองของแต่ละอำเภอในจังหวัดบึงกาฬได้ลงพื้นที่ตรวจตรา และสั่งปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวไว้แล้ว เนื่องจากบางแห่งพบการแพร่ระบาดของโรค ขณะที่บางแห่งไม่ปฏิบัติตามมาตรการ (ที่มีการห้ามดื่มสุราในร้าน, ต้องเปิดในลักษณะของร้านอาหารเท่านั้น ฯลฯ)

คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง130ราย เสี่ยงสูงกว่า300 สั่งปิดยาว

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายปกครองทุกอำเภอได้ลงพื้นที่ตรวจตราสถานบริการและร้านอาหารต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรการ ซึ่งส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการเป็นอย่างดี จะมีบ้างที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการ มีการจำหน่ายสุรา ทางฝ่ายปกครองก็ได้มีคำสั่งให้ปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นการสั่งปิดที่ไม่กำหนดระยะเวลาเปิด จนกว่าจะมีการประเมินอีกครั้งจากทางอำเภอ และจังหวัด เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดเหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด เช่นที่ ตลาดคับคั่ง และที่อื่นๆ


ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อของร้านอาหารตลาดคับคั่ง เรามีผู้ป่วยรายแรกตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 64 ซึ่งขณะนี้ทั้ง 130 คน กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากยังไม่ครบ 14 วัน แต่หากครบ 14 วันก็จะเริ่มทยอยหาย และเป็นที่น่ายินดีคือ ส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แม้มีการติดเชื้อก็จะไม่มีอาการ หรืออาการน้อยมาก ซึ่งทำให้คลัสเตอร์นี้ แม้จะมีจำนวนผู้ป่วยเยอะ แต่อาการจะไม่ค่อยหนัก และเป็นผู้ป่วยสีเขียวทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน ทำให้ร่างกายแข็งแรง และไม่ค่อยมีอาการมาก


แนวโน้มของคลัสเตอร์ตลาดคับคั่งตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยจะเริ่มสูงขึ้นรายวันตั้งแต่วันที่ 7-9 ธ.ค.ที่ผ่านมา และหลังวันที่ 10 ธ.ค. แนวโน้มของผู้ป่วยรายวันจากคลัสเตอร์แห่งนี้ก็ลดลง เพราะจังหวัดได้มีการปิดสถานที่เสี่ยงแล้วหลายแห่ง จึงต้องฝากกำชับผู้ที่เป็นผู้เสี่ยงที่มาใช้บริการที่ตลาดคับคั่งในช่วงที่ผ่านมา ต้องกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัด งดการพบปะผู้คนในช่วงนี้ จนกว่าการแพร่ระบาดของคลัสเตอร์จะดีขึ้น

คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง130ราย เสี่ยงสูงกว่า300 สั่งปิดยาว

ในส่วนของคลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง ก็ทำให้มีการระบาดในอำเภออื่นเพิ่มเติม ลุกลามแทบทุกอำเภอ ยกตัวอย่างเช่นที่ อำเภอบุ่งคล้า ซึ่งมีลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ตลาดคับคั่ง และสถานบันเทิงในจังหวัดบึงกาฬ แล้วกลับบ้านในพื้นที่บ้านนาจาน อ.บุ่งคล้า ทำให้มีผู้สัมผัสร่วมบ้านติดเชื้อส่วนหนึ่ง ก่อนจะกระจายไปในครอบครัวอื่นๆ

 

ณ ปัจจุบันที่บ้านนาจาน อ.บุ่งคล้า ก็มีผู้ป่วยแล้วทั้งหมด 10 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งสันนิษฐานว่า มาจากลูกค้าที่เดินทางไปตลาดคับคั่ง หรือสถานบันเทิงอื่นในจังหวัดบึงกาฬ และส่วนหนึ่งสันนิษฐานว่า มาจากลูกหลานที่กลับมาเลือกตั้งในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวน 10 ราย จะมีนักเรียนของโรงเรียนบุ่งคล้านคร จึงทำให้ต้องกักตัวครูและนักเรียนทั้งหมด 46 รายภายในโรงเรียน โดยคลัสเตอร์ที่บ้านนาจาน อ.บุ่งคล้าขณะนี้ยังถือว่าควบคุมเอาไว้ได้

คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง130ราย เสี่ยงสูงกว่า300 สั่งปิดยาว

ในส่วนของผู้เสียชีวิตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จ.บึงกาฬ มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เป็นรายที่ 19 และรายที่ 20 ของจ.บึงกาฬ ทั้ง 2 รายเสียชีวิตวันที่ 9 ธันวาคม โดยรายแรกเป็นหญิง อายุ 59 ปี มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และไตวายเรื้อรัง เคสนี้ติดจากคลัสเตอร์ตึกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลพรเจริญ ซึ่งเคสนี้มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ซึ่งควบคุมไม่ได้ และมีการติดเชื้อที่ขา ซึ่งต้องได้ส่งตัวไปรักษาด้วยการตัดขาที่โรงพยาบาลบึงกาฬ เนื่องจากมีโรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ได้, ร่างกายไม่แข็งแรง และยังไม่ได้รับวัคซีน เมื่อมีการติดเชื้อโควิด-19 แล้วจึงมีอาการค่อนข้างรุนแรง


ผู้เสียชีวิตรายต่อมา เป็นชาย อายุ 97 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง และสูงอายุมาก ซึ่งติดเชื้อจากคลัสเตอร์ของ ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล โดยผู้ป่วยรายนี้เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ สุขภาพไม่แข็งแรง และยังไม่ได้รับวัคซีน เมื่อมีการติดเชื้อเกิดขึ้นจึงมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิต


โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ย้ำว่า จากข้อมูลผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตสะสมทั้ง 20 รายของจ.บึงกาฬ ล้วนเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการเกิดโรค และป้องกันการเสียชีวิตได้ จึงขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ไปรับวัคซีนได้ที่ รพ.สต. หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน นอกจากนี้ จากข้อมูลของผู้ติดเชื้อทั้ง 130 รายจากตลาดคับคั่ง พบว่า ส่วนใหญ่ได้รับวัคซีน และแทบไม่มีอาการหลังติดเชื้อ จึงเป็นผู้ป่วยสีเขียวทั้งหมด การควบคุมโรคก็จะเป็นไปได้ง่าย

คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง130ราย เสี่ยงสูงกว่า300 สั่งปิดยาว

สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีน ข้อมูลปัจจุบัน จ.บึงกาฬ มีความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเข็มที่ 1 จำนวน 215,487 คน คิดเป็น 58.44% ของฐานประชากรตามสิทธิการรักษา ซึ่งมีประชากรประมาณ 370,000 กว่าคน แต่หากเราคิดตามฐานประชากรที่อยู่จริง รวมประชากรแฝงแล้ว 317,000 กว่าคน ถ้าคิดตามฐานประชากรที่อยู่จริง จะคิดเป็น 67.91 % ฉีดอีกประมาณ 20,000 รายก็จะครบ 70 %

ส่วนสถานการณ์เตียงขณะนี้ ไม่น่าเป็นห่วง เพราะจ.บึงกาฬ มีถึง 8 โรงพยาบาล และข้อมูลเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้ง 8 รพ. สามารถรองรับได้ถึง 500 เตียง และตอนนี้การครองเตียงอยู่ที่ประมาณ 200 เตียงเท่านั้น และแนวโน้มก็น่าจะดีขึ้น โดยในวันที่ 13 – 15 ธันวาคม ผู้ป่วยคลัสเตอร์คับคั่งจะเริ่มจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลเนื่องจากครบ 14 วันแล้ว ก็น่าจะมีเตียงว่างที่มากขึ้น

คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง130ราย เสี่ยงสูงกว่า300 สั่งปิดยาว
   สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ อีกไม่นานจะถึงเทศกาลปีใหม่ จากตัวอย่างที่เราได้เห็นการระบาดในร้านอาหารที่มีลักษณะคล้ายสถานบันเทิงในช่วงที่ผ่านมา พบว่า คนที่กินอาหาร สังสรรค์ และดื่มสุรา มักจะมีการใกล้ชิดกัน ส่งผลให้ติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นการฉลองปีใหม่ ยังสามารถจัดได้ แต่ขอให้ประชาชนยึดถือมาตรการแบบ New Normal อย่างเคร่งครัด