"บิ๊กโจ๊ก" เปิดใจเส้นทางสู่ ผบ.ตร. ชูแนวบริหาร ซ้ายขวัญตำรวจ ขวาคือประชาชน

7ก.พ.67 "บิ๊กโจ๊ก"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร ได้เปิดใจกับ"ไทยนิวส์"ถึงเรื่อง อนาคตเส้นทางในตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำหรับเรื่องการเป็นผู้นำตำรวจ หรือ ผบ.ตร.ในอนาคตนั้น เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาท่านตัดสินใจ แต่เราเนี่ย ถ้าเรามีโอกาส เราก็อยากทำให้ดี ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรมาก เราเดินทางมาไกลมากแล้ว 

 

แต่วันนี้ถึงแม้ว่าเราจะเหลือห้วงเวลาอีกหลายปี แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้มาก  เรื่องการได้เป็น ผบ.ตร.หรือไม่ได้เป็นอยู่ที่ผู้บังคับบัญชา ที่ต้องตัดสินใจ ที่พูดไปคือถ้าผมมีโอกาส ผมจะทำแบบนี้ เมื่อเราดูประชาชน เราต้องมาดูตำรวจ ว่าตอนนี้ตำรวจเราเดือดร้อนเรื่องอะไร เรื่องสำคัญหลักๆคือ สหกรณ์ตำรวจ

วันนี้ตำรวจเราเป็นหนี้สหกรณ์ ทุกจังหวัด ตำรวจเราถูกโกง ชั้นประทวน ยันรองสารวัตร เมื่อหักแล้วไม่เหลือเลย ติดลบ เราต้องไปดูสหกรณ์ทั้ง 76 จังหวัด แล้วเรียกมาคุยใหม่ ทุกสหกรณ์ขาดสภาพคล่องเท่าไร แล้วเราไปหาแหล่งเงิน อาทิเช่น ออมสิน  ล่าสุดผมเพิ่งไปแก้ปัญหาให้สหกรณ์พัทลุง ที่โดนโกงไป 1500 ล้านบาท ถูกโกงไป 40กว่าปี ตำรวจเนี่ยไม่มีเงินเลย เมื่อไม่มีเงินก็ต้องไปรีดไถเขา แม้จับผู้ร้ายและยึดทรัพย์ได้หลายพันล้าน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะสหกรณ์จะเจ๊งแล้ว

ผมก็ต้องไปคุยกับ MDธนาคารออมสิน  ว่าผมขอกู้หน่อย เงินเท่าไรที่จะทำให้ สหกรณ์พัทลุงเดินต่อไปได้ ก็บอกมาว่า 300 ล้าน  ก็เลยบอกกับท่าน MDออมสินว่า ขอกู้เงิน 300ล้านบาท  นี่คือการทำงานของผู้บังคับบัญชา ที่ไม่ได้นั่งอยู่ในห้องแอร์ ต้องทำงานเดินแบบนี้ และก็โอน300ล้านบาทไปให้สหกรณ์พัทลุง

ตำรวจพัทลุงทั้งจังหวัด มีตั้ง 20กว่าโรงพัก เดิมเป็นหนี้ดอกร้อยละ 7.5 แต่ตอนนี้ดอกเหลือ ร้อยละ2.5  ทำให้ตำรวจพัทลุงเงินเหลือมากขึ้น ทุกคนมีกำลังใจ พอตำรวจมีกำลังใจก็เอางานใส่ให้เขา ซึ่งตำรวจที่ทำงานจริงๆ ไม่ใช่ระดับ ผกก. คือ จ่า ดาบ ชั้นประทวน และรองสารวัตร เพราะฉะนั้น วันนี้ในการเป็นผู้บริหารแบบผม

วันนี้ต้องดูแลทั้ง2ส่วน ประชาชนต้องดูอยู่แล้ว แต่ต้องทำให้ตำรวจขับเคลื่อนไปด้วย ถ้าผมมีโอกาสต้องดูสหกรณ์ทั้งประเทศ ผมคุยกับMDธนาคารออมสิน ว่า สหกรณ์ตำรวจ(สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ) ทั้งประเทศเนี่ย เอามากู้ได้ไหม ทางธนาคารก็บอกได้เลย ถ้าเป็นบิ๊กโจ๊กยินดีเลย

เราก็ไปดูว่า สหกรณ์แต่ละจังหวัด มีสภาพคล่องเท่าไร จากเดิมดอกร้อยละ 7.5 เหลือ ดอกร้อยละ 2.5  เนี่ยตำรวจเหลือเงิน จากนั้น ผกก.โรงพักต้องไปลุยต่อ ว่า ลูกน้องตัวเองมีหนี้เหลืออยู่นะ ต้องรัดเข็มขัดละ แบบนี้นะครับ ขวัญกำลังใจตำรวจมันจะดี  

 

ที่ผมพูดเนี่ย มือซ้าย-มือขวา ซ้ายคือขวัญตำรวจ ขวาคือประชาชน ต้องบาลานซ์กันให้ดี

 

ยกตัวอย่างพัทลุง ผมแก้ปัญหาเสร็จ แต่ถ้าผมไม่แก้ปัญหา ตำรวจพัทลุง ติดลบหมด  จะไปมีใจทำงานได้อย่างไร จะอยากทำงานไหม จะมีแต่การคิดว่าหาเงินยังไง รีดไถยังไง มันก็ไม่เกิดในเรื่องของคำขวัญที่ว่า ประชาชนขึ้นโรงพักแล้วไม่ต้องฝาก อันนี้เป็นแนวบริหาร