เปิดวิธีแก้ "คอคาร์บอน" ถึงว่า ขัดยังไง ก็ขัดไม่ออกสักที

เผยวิธีแก้ คอคาร์บอน หรือ ผิวหนังช้าง (Acanthosis nigricans) บอกเลยว่า ขัดยังไงก็ขัดไม่ออก เพราะมันไม่ใช่ความสกปรก

เพจเฟซบุ๊ก Tensia เพจดังที่นำเสนอวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุ

ภาพนี้มักจะเรียกกันว่า คอคาร์บอน แต่ชื่อเป็นทางการคือ ผิวหนังช้าง (Acanthosis nigricans) ขัดยังไงก็ไม่ออกนะคะ เพราะมันเป็นผิวหนังหนาขึ้นมาจริงๆ จากภาวะดื้ออินซูลิน ต้องควบคุมน้ำหนักสถานเดียวค่ะ

เปิดวิธีแก้ คอคาร์บอน ถึงว่า ขัดยังไง ก็ขัดไม่ออกสักที

เมื่อไม่ดูแลสุขภาพมานาน กินจนรับพลังงานเกินตลอด + ไม่ออกกำลังกาย แถมบางคนมีกรรมพันธุ์ชงมาอีก

สุดท้ายเนื้อเยื่อไขมันจะขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ผิวหนัง (SAT) และในร่างกาย (VAT) เซลล์จะเบียดกันเองจน stress แล้วหลั่งสารก่ออักเสบออกมาเรื้อรัง

สารก่ออักเสบที่ออกมามากมาย จะสุมไฟให้ตับ - กล้ามเนื้อ - และตัวเซลล์ไขมันเอง อยู่ในสภาวะพร้อมรบตลอดเวลา ซึ่งสภาวะเหล่านี้ มันจะ ‘ไม่ฟังคำสั่งอินซูลิน’ ผลคือ

✔️ ตับสร้างน้ำตาลมากขึ้น

✔️ กล้ามเนื้อและเซลล์ไขมัน ไม่ยอมนำน้ำตาลเข้า

📈 ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงลอย

เรียกภาวะนี้ว่า ‘ดื้ออินซูลิน’

แต่ตับอ่อนผู้สร้างอินซูลินไม่ยอมแพ้

หลั่งอินซูลินออกมามากขึ้น ผลคือ

▪️เซลล์ผิวหนังที่ยังฟังอินซูลินอยู่ โดนกระตุ้นแรงเลย

▪️สารชื่อ IGF-I ที่เกาะกับโปรตีนในเลือด สลัดออกมาใช้งานมากขึ้น

ทำให้ผิวหนังบริเวณคอพับ โดยเฉพาะต้นคอ

☑️ แบ่งตัวมากขึ้นจนหนาเป็นตะปุ่มตะป่ำ

☑️ สร้างเมลานินมาขึ้นจนคล้ำมาก

กลายเป็นผื่นดำดังภาพ

ถ้าขัดไม่ออก แล้วจะแก้ยังไง?

ตอบ: ควบคุมน้ำหนักค่ะ ส่วนใหญ่จะหายเลย

✅ ควบคุมการกิน อย่ากินพลังงานเกินติดต่อกัน

✅ เปลี่ยนคาร์บทั่วไป เป็นคาร์บเชิงซ้อน

✅ เพิ่มโปรตีนให้เพียงพอ, พยายามเลือกไขมันดี

✅ พยายามให้มีช่วง fasting เสมอ อย่างน้อยที่สุด ก็ไม่ต้องกินอะไรระหว่างมื้อหลัก โดยเฉพาะจากมื้อสุดท้ายข้ามคืนไปจนถึงมื้อเช้า หรือใครจะทำ IF ก็แล้วแต่คน

✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ(อ่านต่อย่อหน้าถัดไป)

✅ นอนหลับให้เพียงพอ 6-9 ชม. และคุณภาพดี หากมีนอนกรนต้องรีบรักษา

✅ ลดความอ้วน ระวังอ้วนแฝง มักจะมาแนว BMI ปริ่มๆ แต่ไขมันในช่องท้องเยอะแล้ว

✅ รักษาสุขภาพจิตเสมอ เช็คตัวเองว่าเริ่มมีโรคซึมเศร้ารึยัง พบจิตแพทย์

✅ งดบุหรี่ ปรึกษาแพทย์ได้ถึงโปรแกรมที่ช่วยให้เลิกได้ถาวร

✅ งดสุราทุกชนิด นานๆ ดื่มทีได้ แต่ไม่ควรมีช่วงดื่มอัดเยอะ ถ้าจะดื่มทุกวัน ไม่ควรเกิน 1 หน่วยมาตรฐาน(ในหญิง) หรือ 2 หน่วยมาตรฐาน(ในชาย) แต่ความเสี่ยงบางโรคก็ยังสูงกว่าคนไม่ดื่มอยู่ดี

✅ เลี่ยง PM2.5 ในวันที่ขึ้นสูงมาก

✅ ตรวจสุขภาพเสมอ เพราะเราไม่รู้เลยว่าอะไรเปลี่ยนไปบ้างแล้วค่ะ

✅ หากเป็นโรคประจำตัวแล้ว พวกเบาหวาน ความดัน ไขมันสูง ยิ่งต้องเคร่งครัดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ประจำตัวนะคะ

แนวทางออกกำลังกายเบื้องต้น

✔️ ออกกำลังกายแบบ Aerobic ระดับปานกลาง เช่น วิ่งจ็อกกิ้ง, เดินเร็ว, ปั่นจักรยาน ที่ทำจนมีช่วงรู้สึกเหนื่อย ทำอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ เฉลี่ยประมาณ 30 นาที/วัน ประมาณ 5 วัน ถ้าได้โดสนี้แล้ว ควรเพิ่มระยะเวลาเป็น 300-600 นาที/สัปดาห์ หรือเพิ่มความหนักขึ้นแต่เวลาเท่าเดิม

✔️ ออกกำลังกายแบบ Strength เช่น สควอท อาจจะเริ่มจากลุก-นั่งจากเก้าอี้ช้าๆ , ท่าวิดพื้นแต่ทำกับผนัง อย่างน้อย 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ ถ้าเริ่มคล่องแล้ว สามารถค้นท่า “body weight” ได้จากอินเตอร์เน็ตได้ หรือเข้ายิมก็ได้ แต่ถ้าจะเล่นหนักขึ้น อาจต้องศึกษาเพิ่มเติมค่ะ

✔️ จุดสำคัญที่สุดของการเริ่มต้น ไม่ใช่วิธีการที่ซับซ้อน ขุดตัวเองมาออกต่อเนื่อง ให้เป็นพฤติกรรมถาวรให้ได้ จนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตค่ะ

✔️ อย่าลืมประเมินศักยภาพตัวเอง ห้ามหักโหม ถ้าจะเพิ่มความหนักต้องค่อยๆ เพิ่ม ดื่มน้ำทดแทนเสมอให้เพียงพอ และต้องมีวันพักให้ร่างกายฟื้นฟู

ทุกอย่างแก้ได้ แบบค่อยเป็นค่อยไป

แต่ถ้าไม่เริ่มซักที มันก็จะอยู่แบบนั้นค่ะ

เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน