หมอเตือนชัด ๆ เผย 5 สิ่งที่คนเป็น "เบาหวาน" พลาดมากที่สุด

"หมอเจด" โพสต์ให้ความรู้ด้านสุขภาพ เตือนชัด 5 ความพลาดที่คนเป็น "เบาหวาน" เจอบ่อยมาก พร้อมแนะวิธีการดูแลตัวเอง

วันที่ 24 ธ.ค. 2568 นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ให้ความรู้ด้านสุขภาพ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก "หมอเจด" เผย 5 สิ่งที่คนเป็น "เบาหวาน" พลาดมากที่สุด โดยระบุว่า

 

หมอเตือนชัด ๆ เผย 5 สิ่งที่คนเป็น เบาหวาน พลาดมากที่สุด

หลายคนกินยาแล้วชิล คิดว่าแค่กินยาก็คุมน้ำตาลได้ แต่จริง ๆ แล้วเบาหวานไม่ได้น่ากลัวแค่ตัวเลขน้ำตาลเท่านั้น แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ "พฤติกรรมที่ทำซ้ำทุกวันโดยไม่รู้ว่าทำผิด" ยิ่งเร่งให้หลอดเลือด ไต ตา และหัวใจพังช้า ๆ แบบไม่รู้ตัว วันนี้ผมเลยรวม 5 ความพลาดที่คนเป็นเบาหวานเจอบ่อยมาก พร้อมผลลัพธ์ที่ตามมาแบบตรงไปตรงมา


1. คิดว่าแค่น้ำตาลไม่สูงก็พอ ไม่สนไขมันและความดัน
หลายคนโฟกัสแต่ค่าน้ำตาลที่ปลายนิ้ว แต่ปล่อยไขมันและความดันให้สูงเรื้อรัง ผลคือหลอดเลือดถูกทำร้ายพร้อมกันสามทาง น้ำตาลกัดผนังหลอดเลือด ไขมันไปอุด ความดันไปดันให้แตกง่าย สุดท้ายเสี่ยงหัวใจวาย อัมพาต ไตเสื่อม แม้น้ำตาลจะดู "ม่สูงมาก" ก็ตาม


2. กินยาสม่ำเสมอ แต่ยังกินแป้ง-หวานเหมือนเดิม
ยาช่วยลดน้ำตาลก็จริง แต่อย่าลืมว่ายาไม่ได้ช่วยให้เบาหวานหายขาด ถ้ายังทำพฤติกรรมเดิม ๆ เช่น กินข้าวขาว เส้น น้ำหวาน ของว่างจุบจิบ ทำให้น้ำตาลพุ่งซ้ำทั้งวัน ตับอ่อนล้า อินซูลินดื้อเร็วขึ้น สุดท้ายต้องมาขอเพิ่มยา เพิ่มขนาด หรือฉีดอินซูลินกับหมอ ทั้งที่จริงแล้วต้นเหตุคืออาหารที่ไม่เคยเปลี่ยนนั่นเอง

3. ข้ามมื้อ หรืออดนาน แล้วมากินหนักทีเดียว (ข้อนี้สำคัญครับ)
ที่ผมพบเจอบ่อยก็คือ บางคนคิดว่าแค่น้ำตาลอยู่ในระดับที่หมอบอกว่าค่าน้ำตาลดีแล้วก็พอ เลยหลุดวินัย กลับมากินหนักเหมือนเดิม บางคนวินัยจัด งดจัดเกินไป สุดท้ายร่างกายเครียด ฮอร์โมนพาน้ำตาลพุ่งแรงกว่าเดิม ตรงกันข้ามกับที่ตั้งใจเลยครับ อย่าคิดแค่ว่ากินตามใจปากสัก 2-3 มื้อ แล้วจะไม่เป็นไรนะครับ เพราะแค่นั้นก็ทำให้น้ำตาลแกว่งขึ้นลง ผลคือหลอดเลือดพังเร็วกว่าเดิม แถมเสี่ยงน้ำตาลต่ำ หน้ามืด ใจสั่น โดยเฉพาะในคนที่กินยาอยู่


4. นอนดึก เครียดสะสม แต่คิดว่าไม่เกี่ยวกับน้ำตาล
การนอนน้อยและความเครียดทำให้ฮอร์โมนความเครียดสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำตาลพุ่งเองแม้ไม่ได้กินอะไรเพิ่ม หลายคนงงว่ากินเหมือนเดิม แต่น้ำตาลสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ต้นเหตุคือการพักผ่อนไม่พอ ทำให้ควบคุมเบาหวานยากขึ้นโดยไม่รู้ตัว


5. ไม่ตรวจภาวะแทรกซ้อน เพราะ "ยังไม่เป็นอะไร"
เบาหวานทำลายอวัยวะแบบเงียบ ๆ ตา ไต เส้นประสาท หัวใจ มักไม่แสดงอาการในระยะแรก หลายคนมารู้ตัวอีกทีคือสายตาพร่า ไตเสื่อม ชาปลายมือปลายเท้า หรือแผลหายช้า การไม่ตรวจคัดกรองประจำ คือการปล่อยให้โรคลุกลามโดยไม่มีโอกาสเบรก


แล้วต้องแก้ยังไงบ้าง? หลายคนถามผมแบบนี้ ดูที่ 5 ข้อนี้เลย

  • โฟกัสมากกว่าแค่ลดน้ำตาล ต้องดูทั้งไขมัน ความดัน น้ำหนักด้วยนะครับ
  • การนอนก็สำคัญครับ นอนก่อนเที่ยงคืน ควรพักผ่อน 6-7 ชม. และความเครียด
  • เลือกอาหารที่น้ำตาลขึ้นช้า กินให้เป็นเวลา ไม่อด ไม่จุบจิบ
  • คอยขยับร่างกายสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่สัปดาห์ละครั้ง อย่างน้อย 30 นาที/วัน
  • และตรวจภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามนัดเสมอ


เบาหวานคุมได้จริง ถ้าคุมทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ปลายนิ้ว คนเป็นเบาหวานส่วนมากพังเพราะ "ความพลาดเล็ก ๆ ที่ทำซ้ำทุกวัน" ยิ่งรู้เร็ว ปรับเร็ว ยิ่งลดโอกาสเจอภาวะแทรกซ้อนหนัก ๆ ในอนาคต อย่ารอให้ตัวเลขแย่หรืออวัยวะส่งสัญญาณก่อนค่อยเปลี่ยน เพราะตอนนั้นต้นทุนสุขภาพจะสูงกว่ามาก