วัยรุ่นนึกคึก ขโมยรถ เลียนแบบเทรนด์ใน TikTok ซิ่งกระจายชนคนเสียชีวิตระนาว

วัยรุ่นนึกคึก ขโมยรถ เลียนแบบเทรนด์ใน TikTok ซิ่งกระจาย ชนสนั่นเสียชีวิตสลด 4 ราย เผยหนึ่งในนั้นเป็นแม่วัย 14 ปี

ใน TikTok มักจะมีเทรนด์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย แม้บางเทรนด์จะสร้างสรรค์ แต่ก็มีหลายเทรนด์มีความอันตราย แถมยังมีคนแห่ทำตามจนเกิดปัญหาขึ้น อย่างเมื่อไม่นานมานี้มีคนปล่อยคลิป โชว์การใช้สาย USB มาเป็นอุปกรณ์ในการขโมยรถ Kia และ Hyundai กระตุ้นให้คนอยากรู้อยากลองแห่ทำตามจนเป็นชาเลนจ์ จนคดีโจรกรรมรถเพิ่มขึ้นสูงมากในสหรัฐฯ

 

วัยรุ่นนึกคึก ขโมยรถ เลียนแบบเทรนด์ใน TikTok ซิ่งกระจาย ชนสนั่นเสียชีวิต 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นแม่วัย 14 ปี

และในที่สุดชาเลนจ์ดังกล่าวก็นำมาสู่ความสูญเสีย เมื่อมีรายงานกรณีวัยรุ่น 6 คน ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ ขณะขับขี่รถ Kia ที่ขโมยมาระหว่างพยายามเลียนแบบชาเลนจ์บน TikTok โดยพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 4 คน และอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ


ทว่ายังมีเรื่องที่น่าสลดกว่านั้น คือหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นสาววัยรุ่นอายุ 14 ปี ที่เพิ่งจะคลอดลูกเมื่อไม่นาน และกำลังจะฉลองวันเกิดครบอายุ 15 ปี ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ขณะที่เหยื่ออายุมากสุด เป็นเด็กหนุ่มอายุ 19 ปี ซึ่งคนรู้จักชี้ว่าเป็นคนที่ขยันทำงานและเรียนไปในเวลาเดียวกัน


ตามรายงานระบุว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้ใช้วิธีซึ่งพบเห็นจาก TikTok ในการขโมยรถเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่รถจะขับชนจนดีดร่างของคนในรถกระจายออกไปบนพื้นถนน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำตัวผู้รอดชีวิต 2 รายส่งโรงพยาบาล พบว่าวัยรุ่นชายอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถ สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ส่วนสาวอายุ 14 ปีอีกคนที่อาการสาหัส ถูกย้ายออกมาจากห้องไอซียูแล้ว

วัยรุ่นนึกคึก ขโมยรถ เลียนแบบเทรนด์ใน TikTok ซิ่งกระจาย ชนสนั่นเสียชีวิต 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นแม่วัย 14 ปี

ทั้งนี้ คนขับอายุ 16 ปี จะถูกตั้งข้อหาใช้ยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาต และการลักทรัพย์ โดยมีกำหนดขึ้นศาลในเดือนพฤศจิกายน


อย่างไรก็ตาม ด้าน โจเซฟ กราแมกเลีย ผู้บัญชาการตำรวจเมืองบัฟฟาโล เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุโจรกรรมรถเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ชาเลนจ์ TikTok กลายเป็นไวรัล

วัยรุ่นนึกคึก ขโมยรถ เลียนแบบเทรนด์ใน TikTok ซิ่งกระจาย ชนสนั่นเสียชีวิต 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นแม่วัย 14 ปี

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline